สำหรับป้านชาจีนนั้น สุดยอดของป้านชาคือ ป้านชาที่ทำจาก ดินอี๋ซิง (宜兴 – Yíxing) จังหวัดเจียงซู (อยู่ตอนเหนือของเซี่ยงไฮ้)
กาอี๋ซิง (Yixing Teapot) แบ่งได้เป็น 3 ประเภทตามลักษณะของดินที่มาใช้ปั้น โดยมีรายละเอียดดังนี้
กาจื่อซา (紫砂 Zǐshā) หรือ จื่อหนี (紫泥 – Zǐ ní)
หากแปลตามตัวเลยก็คือ ดินสีม่วง ภาษาอังกฤษเรียกว่า Purple clay แต่จริงๆแล้วกาน้ำชาดินจื่อซานี้ จะออกสีน้ำตาลไหม้ และถ้ากล่าวถึงกาน้ำชาอี๋ซิงแล้ว กาที่ทำขึ้นจากดินจื่อซา จะเป็นที่รู้จักกันมากที่สุดครับ ดินตัวนี้เผาที่ความร้อนประมาณ 1200 C นิดหน่อย เนื้อจึงจะนิ่มกว่าจูหนีเพราะมีแร่เหล็กผสมอยู่น้อยกว่า รูพรุนก็จะใหญ่กว่า การดูดซับกลิ่นชาก็จะเยอะกว่า
กาจูซา (朱砂 Zhūshā) หรือ จูหนี (朱泥 – Zhū ní)
แปลกันตามตัวคือ ดินสีชาด(แดง) ภาษาอังกฤษเรียกว่า Vermilion clay แดงอมน้ำตาล ภาษาอังกฤษเรียก Cinnabar clay เป็นเพราะดินจูหนีนั้นมีธาตุเหล็กผสมอยู่มากครับ จึงทำให้มีสีออกแดงชาด และเนื้อดินจะมีเม็ดทรายปนอยู่ ดินจูหนีจะเผาที่ความร้อยประมาณ 1100- 1400 C การเผาดินจูหนีจะต้องอาศัยความชำนาญมากเนื่องจากระหว่างการเผาดินจะมีการหดตัวสูง เมื่อเป็นป้านชาก็จะทำให้มีความแข็งเนื่องจากมีเหล็กผสมอยู่ เวลาเคาะเสียงจะดังกังวาน มีเหมืองขุดดินจูหนีในเมืองจีนนี้แค่ 10 แห่งเท่านั้นนะครับ ซึ่งทำให้กาจุหนีนี้ มีจำนวนค่อนข้างจำกัด ประกอบกับปัจจุบันทางการจีนได้ปิดเหมืองบางแห่งไปแล้วด้วย ยิ่งทำให้กาจูหนีหาหายมากขึ้นด้วย เอาไว้จะเขียนถึงความพิเศษของป้านชาจูหนีครับ
กาต้วนหนี (锻泥 Duàn ní)
เป็นดินสีเหลืองอ่อนๆ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Fortifed clay ถ้าเทียบความแข็งแล้วตัวนี้จะอ่อนสุดในสามตัวที่กล่าวมา เนื่องจากเป็นสีเหลืองอ่อน ด้วนหนีจึงถูกนำมาผสมแร่ธาตุอื่นๆเพื่อให้เป็นเกิดสีต่าง งานปั้นชาที่มีสีสันแปลกๆส่วนใหญ่จึงเป็นต้วนหนี กาต้วนหนีในท้องตลาดปัจจุบันเราอาจจะพบเห็นได้เป็นสีทราย สีน้ำเงิน สีเขียว และสีดำ